Ranpak แพคเกจจิ้งกระดาษเปลี่ยนโลก
MISC-Store2021-11-30T08:34:08+07:00
ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 Ranpak คือผู้นำในอุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งกระดาษ ด้วยคุณสมบัติการปกป้องที่ดีในขณะเดียวกันก็ยึดมั่นในเรื่องของความยั่งยืน นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์กระดาษของ Ranpak ยังเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยลดเวลาและวัสดุในการแพ็คสินค้า ส่งผลให้การบริหารต้นทุนรวมของธุรกิจดียิ่งขึ้น
ปัจจุบันในโลกเรามีการผลิตพลาสติกราวๆ 400 ล้านตัน/ปี มีเพียง 9% ของพลาสติกที่ผลิตขึ้นมาเท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล
กว่า 60 ประเทศทั่วโลกเริ่มรณรงค์ยับยั้งการใช้พลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง (single-use plastic) เพื่อลดจำนวนขยะพลาสติก
ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์แพคเกจจิ้งกระดาษจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าเพื่อความยั่งยืนของโลกเรา เพราะ…
• หมุนเวียนได้ (Renewable) กระดาษผลิตจากทรัพยากรที่สามารถหมุนเวียนเติบโตขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งต้นไม้ก็จะช่วยดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากอากาศในขณะที่เติบโต
• ย่อยสลายได้ (Biodegradable) กระดาษสามารถย่อยสลายไปตามธรรมชาติใช้เวลาเพียงสัปดาห์ไปจนถึงไม่กี่เดือน แต่วัสดุอื่นที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น พลาสติก สามารถอยู่ได้ยืนยาวกว่าชั่วอายุคน จนบางทีดูเหมือนมันอาจจะไม่สามารถย่อยสลายไปได้เลยด้วยซ้ำ
• รีไซเคิลได้ (Recyclable) กระดาษสามารถถูกนำกลับมาใช้ใหม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล ซึ่งจะช่วยลดการทำลายป่าไม้ ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และไม่เป็นปัญหาต่อการกำจัดขยะโดยการฝังกลบ อีกทั้งยังช่วยลดการพึ่งพาพลาสติกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
Ranpak คือผู้นำในเรื่องแพคเกจจิ้งกระดาษ ที่นอกจากจะช่วยปกป้องสินค้าแล้วยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซและอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยทดแทนแพคเกจจิ้งดั้งเดิมที่เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอย่างพลาสติก
ผลิตภัณฑ์แพคเกจจิ้งกระดาษที่ Ranpak นำเสนอมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน
1. การเติมเต็ม (Void filling)
เติมเต็มพื้นที่ว่างในกล่องด้วยกระดาษน้ำหนักเบาและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยล็อคสินค้าไม่ให้ขยับเคลื่อนไหวไปมา

2. การห่อหุ้ม (Wrapping)
ช่วยกันรอยขีดข่วนบนพื้นผิวสินค้าและช่วยป้องกันการกระแทกกันของสิ่งของภายในกล่องอันเกิดจากการขนส่ง

3. การกันกระแทก (Cushioning)
ช่วยลดแรงกระแทกจากภายนอกต่อสินค้าภายในกล่อง

ขอขอบคุณที่มาของบทความจาก
1. Ranpak : https://www.ranpak.com
ใส่ความเห็น